toward-a-nuclear-free-world

Reporting the underreported threat of nuclear weapons and efforts by those striving for a nuclear free world. A project of The Non-Profit International Press Syndicate Japan and its overseas partners in partnership with Soka Gakkai International in consultative status with ECOSOC since 2009.

INPS Japan
HomeLanguageThaiสนธิสัญญาตลาเตโลลโกมีอายุครบ 58 ปีในบริบทที่ความร่วมมือระหว่างประเทศและการทูตเผชิญกับการตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง

สนธิสัญญาตลาเตโลลโกมีอายุครบ 58 ปีในบริบทที่ความร่วมมือระหว่างประเทศและการทูตเผชิญกับการตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง

-

Image: Alfonso García Robles, Treaty of Tlatelolco. Source: OPANAL
Image: Alfonso García Robles, Treaty of Tlatelolco. Source: OPANAL

58 ปีหลังการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์แห่งแรกของโลก รัฐในลาตินอเมริกาและแคริบเบียนทั้ง 33 รัฐยืนยันพันธสัญญาที่จะมีส่วนร่วมกับความพยายามระดับโลกในการกำจัดอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงชนิดนี้

โดย กิลเลอร์โม อายาลา อะลานิส

ห้าสิบแปดปีที่แล้ว เขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์แห่งแรกของโลกเกิดขึ้นในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน หลังเกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่สุดครั้งหนึ่งในยุคสงครามเย็น นั่นคือ “วิกฤตขีปนาวุธ” เมื่อ ค.ศ. 1962 ที่เกือบจุดชนวนสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต

 หลังจากเห็นถึงภัยคุกคามดังกล่าว นักการทูตจากโบลิเวีย บราซิล ชิลี และเอกวาดอร์จึงมาทำงานร่วมกันภายใต้ความคิดริเริ่มของเม็กซิโก เพื่อจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ (NWFZ) แห่งแรกของโลก หลังจากเจรจากันเป็นเวลาหลายปีจึงมีการลงนามในสนธิสัญญาห้ามปรามอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน หรือที่เรียกว่า สนธิสัญญาตลาเตโลลโก เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1967 ซึ่งรับประกันว่าจะไม่มีการพัฒนา ผลิต สะสม ครอบครอง หรือใช้อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคนี้

Image: Flávio Roberto Bonzanini, Secretary General OPANAL. Source: OPANAL
Image: Flávio Roberto Bonzanini, Secretary General OPANAL. Source: OPANAL

ความพยายามทางการทูตและพหุภาคีในเวลานั้นได้ทิ้งมรดกแห่งความมั่นคงให้แก่ภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ราว 657 ล้านคนตามข้อมูลของธนาคารโลก

ในงานรำลึกครบ 58 ปีของ สนธิสัญญาตลาเตโลลโก คุณฟลาวิโอ โรเบอร์โต บอนซานีนี เลขาธิการองค์กรเพื่อการห้ามปรามอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (OPANAL) เน้นย้ำว่างานรำลึกในปีนี้มีความสำคัญท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน “ซึ่งความร่วมมือระหว่างประเทศ เครื่องมือพหุภาคีและการทูตถูกตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง”  ในพิธีรำลึกซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ OPANAL ในเม็กซิโกซิตี คุณบอนซานีนี กล่าวด้วยว่าสิ่งที่ไม่ควรลืมคือ “สนธิสัญญาของเราและเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ลาตินอเมริกาและแคริบเบียนเกิดขึ้นในบริบทที่มีความตึงเครียดสูง… ดังนั้นเราจึงยืนยันพันธสัญญาที่จะทำให้ภูมิภาคของเราปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ และพยายามมากขึ้นเพื่อมีส่วนร่วมกับความพยายามระดับโลกในการกำจัดอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงชนิดนี้”

คุณเอดูอาร์โด จารามิลโล ประธานคณะกรรมการรัฐสมาชิก OPANAL คนปัจจุบันเน้นย้ำความสำคัญของเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ลาตินอเมริกาและแคริบเบียนที่จะเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจในการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ที่คล้ายกันในอีกสี่ภูมิภาคของโลก นอกเหนือจากพันธสัญญาของมองโกเลีย

Image: Eduardo Jaramillo X: @ejaramillon
Image: Eduardo Jaramillo X: @ejaramillon

ในนามของรัฐสมาชิก OPANAL ทั้ง 33 รัฐ คุณจารามิลโลยังย้ำความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศท่ามกลาง “ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและอย่างซ่อนเร้นของการใช้อาวุธนิวเคลียร์” เขารับรองว่าเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์จะส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ และกล่าวว่าเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้ “เป็นการก้าวไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยทั่วไปอย่างสมบูรณ์ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นพวกเขาจึงสนับสนุนการจัดตั้งเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์แห่งใหม่ ๆ

พิธีครบรอบ 54 ปีของ OPANAL ยังทำหน้าที่ประกาศผู้ชนะรางวัล ‘รางวัล Antonio Augusto Cançado Trindade สำหรับการเลิกอาวุธนิวเคลียร์และการไม่แพร่กระจายพันธุ์’ ฉบับแรก

ผู้ชนะคือ Elizabeth Mendenhall และ José Luis Rodríguez สำหรับงานของพวกเขาชื่อ ‘เขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์และปัญหาการขนส่งทางทะเลในละตินอเมริกา’ ซึ่งหมายถึงการสอบสวนผลกระทบของสนธิสัญญา ของ Tlatelolco ต่อการขนส่งทางทะเล

ในการแถลง คุณโจเซ หลุยส์ โรดริเกวซ ให้ความเห็นว่ามีความสนใจในการวิจัยมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาพบว่าเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ลาตินอเมริกาและแคริบเบียนไม่จำกัดการขนส่งอาวุธนิวเคลียร์ทางทะเล และเน้นว่า “มีงานวิจัยจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่วิเคราะห์บทบาทของประเทศกำลังพัฒนาซึ่งส่งผลต่อระเบียบนิวเคลียร์โลก” และกล่าวว่าบทความดังกล่าว “เป็นอีกหนึ่งข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับงานวิจัยด้านนี้ที่กำลังเติบโต และน่าจะช่วยให้เราเข้าใจบทบาทของประเทศกำลังพัฒนาซึ่งส่งผลต่อระเบียบนิวเคลียร์โลกได้ดีขึ้น”

mage: Alfonso García Robles bookshop.
Source: FCE

ขณะเดียวกัน คุณเอลิซาเบธ เมนเดนฮอลล์ กล่าวว่าทั้งสองยังคงทำการวิจัยที่ “สามารถแสดงหนทางให้ประเทศต่าง ๆ สามารถขยายความครอบคลุมของเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในทะเล และในขณะเดียวกันก็ตรวจสอบหน่วยงานและผู้นำของรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในการจัดทำสนธิสัญญาเพื่อควบคุมอาวุธนิวเคลียร์

การลงนามใน สนธิสัญญาตลาเตโลลโก เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ผู้มีอำนาจและประชาชนในเม็กซิโกและลาตินอเมริกาต้องจดจำ เช่น ในโอกาสครบ 58 ปีของสนธิสัญญานี้มีการปาฐกถาในหัวข้อ “สนธิสัญญาตลาเตโลลโก ประวัติศาสตร์และทัศนะเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์” ในสถานที่ที่เคยเป็นสำนักงานใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศของเม็กซิโก ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการลงนามสนธิสัญญาดังกล่าวเมื่อ ค.ศ. 1967

ตลาเตโลลโกเป็นชุมชนเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเม็กซิโกซิตี บริเวณดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญตั้งแต่สมัยก่อนที่ชาวสเปนจะเข้ามา ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ตลาเตโลลโกกลายเป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยต้นแบบและเป็นศูนย์กลางทางการทูตของเม็กซิโก โดยเป็นที่ตั้งของอาคารกระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก (UNAM) เป็นผู้บริหารจัดการอาคารดังกล่าวผ่านทางศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยตลาเตโลลโก (CCUT) และพยายามให้เป็นสถานที่ในการรักษาความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของตลาเตโลลโก

Image: Alfonso García Robles bust at La Salle University.
Photo: Guillermo Ayala Alani
Image: Alfonso García Robles bust at La Salle University.
Photo: Guillermo Ayala Alani

สนธิสัญญาตลาเตโลลโก มีผลบังคับใช้ใน 33 รัฐที่ประกอบขึ้นเป็นภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน การจัดทำและความมุ่งมั่นของสนธิสัญญาดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการแสดงถึงประสิทธิภาพของนโยบายปฏิเสธการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ กระทั่งเป็นเครื่องรับประกันสันติภาพในพื้นที่ขนาดใหญ่ของโลก

ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดทำสนธิสัญญาดังกล่าวคือคุณอัลฟอนโซ การ์เซีย โรเบลส์ อดีตเอกอัครราชทูตเม็กซิโกผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพใน ค.ศ. 1982 เขายังคงอยู่ในความทรงจำของชาวเม็กซิโกโดยการนำชื่อมาตั้งเป็นชื่อโรงเรียนของรัฐ ตลอดจนชื่อร้านหนังสือในอาคารตลาเตโลลโกอันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์

นอกจากนี้เขายังเป็นที่จดจำในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วยรูปปั้นที่สร้างขึ้นเป็นเกียรติแก่เขาในมหาวิทยาลัยอิสระแห่งชาติเม็กซิโก และมหาวิทยาลัยลาซาล รวมถึงสถานที่อื่น ๆ

บทความนี้นำเสนอโดย ไอเอ็นพีเอส เจแปน (INPS Japan)  โดยร่วมมือกับ สมาคมสร้างคุณค่าสากล (Soka Gakkai International) ในสถานะที่ปรึกษาคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (UN ECOSOC)

ไอเอ็นพีเอส เจแปน (INPS Japan)

Most Popular